วีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา (United State of America)

Update: 01 Oct’15
ระเบียบการขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอเมริกา
วีซ่าชั่วคราว หรือที่เรียกกันว่า วีซ่าเยี่ยมเยียน เป็นสิ่งที่พลเมืองของประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการยกเว้นวีซ่าทุกคนต้องมีก่อนการเดินทางไปสหรัฐฯ ชั่วคราวเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ การท่องเที่ยว หรือการศึกษา

โปรดทราบว่า วีซ่ามิได้เป็นหลักประกันการเข้าสหรัฐอเมริกา ตามกฎหมายสหรัฐฯ วีซ่าเป็นสิ่งที่ผู้ได้รับการอนุมัติวีซ่าสามารถนำไปยื่นขอเข้าสหรัฐฯ

แต่มิได้เป็นหลักประกันการเข้าสหรัฐฯ ผู้ถือวีซ่าจะได้รับการตรวจ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ เป็นผู้มีอำนาจอนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าสหรัฐฯ

ขั้นตอนใหม่สำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)

1. ลงทะเบียนและสร้างโปรไฟล์ โดยกรอก “แบบฟอร์มวีซ่าชั่วคราวทั่วไป”

มีชื่อว่า แบบฟอร์ม DS-160 ตาม Link นี้ https://ceac.state.gov/genniv/ (กรอกแบบฟอร์ม DS-160)

วิธีการกรอก สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-ds160complete.asp (วิธีการกรอกแบบฟอร์ม DS-160)

ลงทะเบียนและสร้างโปรไฟล์ โดยกรอกรายละเอียดทั้งหมดตามที่แบบฟอร์มระบุ เมื่อกรอกเสร็จแล้ว จะสามารถปริ้นต์แบบฟอร์มออกมา และจะได้แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารที่มีรายละเอียดตามที่ท่านกรอก ให้พิมพ์แบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Ayuthaya Bank) นั้นออกมาด้วยเช่นกัน และให้เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมตามที่ได้ระบุไว้ในเว็บไซท์

หมายเหตุ:

ผู้สมัครวีซ่าสหรัฐฯ จะต้องอัพโหลดรูปถ่ายดิจิทัลลงในแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 โดยรูปถ่ายจะต้องตรงตามข้อกำหนด มิเช่นนั้นท่านจะไม่สามารถดำเนินกระบวนการสมัครต่อไปได้ โดยรูปถ่ายจะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้

– ต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน

– ต้องมีพื้นหลังสีขาว

– ต้องถ่ายหน้าเต็ม โดยหันหน้าเข้ากล้อง

– ต้องอยู่ในรูปแบบ Joint Photographic Experts Group (JPEG หรือไฟล์ .jpg) โดยมีขนาด 600×600 พิกเซล และ 1200×1200 พิกเซล

– ขนาดของไฟล์จะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 240 กิโลไบท์

– จะต้องไม่ถูกปรับแต่งทางดิจิทัล

ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวทุกท่าน ยกเว้นผู้สมัครวีซ่าคู่หมั้น K1 – K4 จะต้องยื่นแบบฟอร์ม DS-160 electronic visa application form โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พัฒนาแบบฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อให้กระบวนการสมัครวีซ่ามีความสะดวกยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้สมัคร

วีซ่าคู่หมั้น K1 – K4 จะต้องยื่นแบบฟอร์ม DS-156 เพิ่มเติม

2. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า

หลังจากที่ปรินต์ใบ DS-160 และแบบฟอร์มใบฝากเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Ayuthaya Bank)

ให้นำใบฝากเงินธนาคารที่ได้มาไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยา ณ สาขาตามที่กำหนดไว้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมสมัครวีซ่า

ค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราว (ชนิด B,F,J): 160 USD/คน

ทางเลือกการชำระเงิน

การโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ – Electronic Funds Transfer (EFT)

ผู้สมัครสามารถชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวด้วยการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) โดยตรงจากบัญชีธนาคารของท่าน โปรดทราบว่าธนาคารเจ้าของบัญชีของผู้สมัครอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้ หากผู้สมัครสร้างโปรไฟล์ยื่นคำร้องขอวีซ่าพร้อมผู้ติดตาม (ที่เป็นครอบครัวหรือกลุ่ม) มาจากในระบบนัดหมาย ผู้สมัครชำระเงินเพียงครั้งเดียว (โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าจำนวนค่าธรรมเนียมวีซ่าบนคำแนะนำชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าถูกต้องตามจำนวนผู้สมัครทั้งหมดในหมู่คณะของท่าน

1) ล็อกอิน โพรไฟล์ เมื่อถึงหน้าชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า เลือกการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID จะปรากฎบนหน้าจอ ผู้สมัครต้องใช้เลขที่อ้างอิงนี้ ในการดำเนินการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) ออนไลน์

2) ผู้สมัครทำการชำระเงินเพียงครั้งเดียว ต่อ เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID เท่านั้น เพราะท่านไม่สามารถโอนเปลี่ยนให้ผู้สมัครท่านอื่นหรือขอค่าธรรมเนียมวีซ่าคืนได้ในทุกกรณี เป็นความรับผิดชอบของผู้สมัคร ที่ต้องเก็บเลขที่อ้างอิง Virtual Account ID ไว้เป็นหลักฐานในการทำนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า

3) ใส่ชื่อธนาคารผู้รับเงินที่ระบุด้านล่างในการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อทำให้การโอนเงิน (ACH Transfer-SMART) ของท่านสมบูรณ์ กรุณาชำระเป็นเงินบาทเท่านั้น

ธนาคารผู้รับเงิน: Bank of America N.A., Bangkok Branch

SWIFT CODE: BOFATH2X

Bank Sort Code: 0270001

เลขที่อ้างอิง: เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID ของผู้สมัคร

จำนวน: xxx.00 กรุณาชำระเป็นเงินบาทเท่านั้น

4) เมื่อระบบได้รับชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมล์แจ้งผู้สมัคร เมื่อผู้สมัครได้รับอีเมล์แจ้ง ให้ทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่ากับระบบได้ โดยใช้เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID

ชำระเงินสดที่ธนาคาร

ผู้สมัครสามารถชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว ด้วยเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ทุกสาขาในประเทศไทย

ผู้สมัครต้องพิมพ์ใบแนะนำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าสหรัฐฯ และ ใบนำฝากเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากระบบก่อน นำทั้งสองรายการไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคาร โปรดคลิก http://www.krungsri.com/th/locations.aspx เพื่อดูที่ตั้งสาขาต่างๆของธนาคาร

1) ล็อกอิน โพรไฟล์ เมื่อถึงหน้าชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า เลือก ชำระเงินสดที่ธนาคาร

2) พิมพ์ใบแนะนำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ที่ระบุเลขที่อ้างอิง Virtual Account ID และ เลขที่อ้างอิง CGI ที่ต้องนำไปใช้ในการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคาร

3) พิมพ์ ใบนำฝากเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากระบบก่อน ธนาคารจะดำเนินการรับชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าด้วยใบนำฝากเงินของธนาคาร นำทั้งสองรายการไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคาร

4) นำใบแนะนำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าสหรัฐฯ และ ใบนำฝากเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั้งสองรายการไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคาร โดยแจ้งเลขที่อ้างอิง Virtual Account ID และ เลขที่อ้างอิง CGI ในการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคาร หากไม่มีเลขที่อ้างอิงดังกล่าว หรือ ชำระจำนวนเงินไม่ถูกต้อง ผู้สมัครจะไม่สามารถทำการนัดสัมภาษณ์ได้

5) ใบนำฝากเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยามี 2 ส่วน หลังจากธนาคารรับชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารจะคืนสำเนาใบฝากเงิน (ส่วนของลูกค้า พร้อมตราประทับ) กรุณาเก็บไว้เป็นหลักฐาน ธนาคารไม่สามารถออกฉบับใหม่ได้หากสูญหาย ผู้สมัครจะไม่สามารถทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าได้หากไม่มีสำเนาใบฝากเงินฉบับนี้

6) เมื่อระบบได้รับชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมล์แจ้งผู้สมัคร เมื่อผู้สมัครได้รับอีเมล์แจ้ง ให้ทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่ากับระบบได้

3. ทำการนัดหมายวันสัมภาษณ์วีซ่า

ผู้ที่ยื่นคำร้องขอวีซ่าอเมริกาจะต้องไปสัมภาษณ์วีซ่าด้วยตนเองที่สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกา ท่านจะต้องทำการนัดหมายเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่า

ผู้สมัครสามารถทำนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า ได้ทาง ออนไลน์ หรือ เจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ โดยใช้เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID เพื่อทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า

จองคิวออนไลน์ ที่ https://cgifederal.secure.force.com/?language=Thai&country=Thailand

เข้ามาแล้ว ให้ป้อน E-Mail และ รหัสผ่านที่ใช้ในตอนกรอกทำแบบฟอร์ม DS-160

จองคิวทางโทรศัพท์ผ่านศูนย์บริการ ที่ 02-105-4110

ข้อมูลที่ต้องให้สำหรับจองการนัดวัดสัมภาษณ์ มีดังนี้:

– หมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน

– หมายเลขใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าของท่าน (คลิก ที่นี่ หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาหมายเลขดังกล่าว)

– หมายเลขบาร์โค้ดสิบ (10) หลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160

ตารางแสดงระยะเวลาที่ผู้สมัครสามารถทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าได้หลังจากชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว

ในการกำหนดนัดวันสัมภาษณ์ ให้แจ้งที่อยู่สำหรับการจัดส่งเอกสารด้วย หากคำร้องขอวีซ่าของท่านได้รับอนุมัติ ทางเราจะจัดส่งวีซ่าของท่านไปยังที่อยู่ตามท่านระบุจะไปรับหรือให้จัดส่ง

4. เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นในการยื่นคำรองขอวีซ่า มีดังนี้

เอกสารพิ่มเติมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่กงสุลจะนำมาพิจารณาประกอบการสัมภาษณ์ โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณีจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ขณะที่ทำการตัดสิน โดยอาจดูเจตนาของท่าน สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาวของท่าน ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคลภายใต้กฎหมาย

– แบบฟอร์ม DS-160 ที่กรอกเสร็จแล้ว และปริ้นต์ออกมา

– ใบฝากเงินธนาคารที่ได้มาไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยา ณ สาขาตามที่กำหนดไว้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมสมัครวีซ่า

– ใบที่ชำระค่าธรรมเนียสมัครวีซ่าแล้ว

– รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว x 2 นิ้ว 3 รูป อายุไม่เกิน 6 เดือน (พื้นหลังต้องเป็นสีขาวเท่านั้น) (ไม่อนุญาตให้ใช้รูปด่วน หรือ โพลาลอยด์)

นอกจากนี้ ผู้สมัครวีซ่าสหรัฐฯ จะต้องอัพโหลดรูปถ่ายดิจิทัลลงในแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 ด้วย หนังสือเดินทางเล่มจริง ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนวันหมดอายุ (ถ้ามีเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย)

หนังสือเดินทางฉบับจริง (Passport) ที่ยังไม่หมดอายุ และต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป นับจากวันที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย

– สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ชุด

– บัตรประชาชน และ สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตร)

– ทะเบียนบ้านฉบับจริง และ สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด

– ทะเบียนสมรส พร้อม สำเนาทะเบียนสมรส หรือ กรณีหย่า ขอ ทะเบียนหย่า พร้อมสำเนาทะเบียนหย่า

– ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล พร้อมทั้งสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (กรณีที่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล)

– เอกสารเกี่ยวกับอาชีพ

กรณีลูกจ้าง พนักงานบริษัท และ ข้าราชการ

จดหมายรับรองการทำงานจากบริษัทที่ทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ ถึงสถานฑูต ระบุหน่วยงานที่สังกัด วันที่เริ่มทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาให้ลาหยุด และ ระยะเวลาที่จะพำนักในสหรัฐอเมริกา

กรณีเจ้าของกิจการ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว

หนังสือรับรองบริษัท และ หนังสือรับรองทะเบียนการค้า (ฉบับจริง) ที่มีรายชื่อกรรมการ และชื่อผู้ขอวีซ่า และประทับตราบริษัท มีชื่อผู้เดินทางเป็นหุ้นส่วนหรือเจ้าของ

กรณีนักเรียน หรือ นักศึกษา

ให้แสดงหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา จากสถานศึกษา เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง

นำผลการเรียนล่าสุด ใบรับรองผลการศึกษา และใบรับปริญญา/ใบประกาศนียบัตรมาด้วย นำหลักฐานการสนับสนุนทางการเงินเช่น ใบแจ้งยอดบัญชีรายเดือนจากธนาคาร ใบรับเงินฝากประจำ หรือหลักฐานอื่นๆ

กรณีผู้อยู่ใต้อุปการะเลี้ยงดู เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ทำงาน

ให้แสดงทะเบียนสมรถ, หนังสือรับรองการทำงาน, สำเนาสมุดเงินฝาก, ทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชนของสามี

กรณีเดินทางไปเยี่ยมญาติ

นำสำเนาหลักฐานสถานภาพของญาติที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ (เช่นกรีนการ์ด ใบรับรองสัญชาติ วีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ เป็นต้น)

– เอกสารเกี่ยวกับรายได้

กรณีลูกจ้าง พนักงานบริษัท และ ข้าราชการ

สมุดบัญชีธนาคารส่วนตัวฉบับจริง หรือ หนังสือรับรองจากธนาคารที่ท่านมีบัญชีเงินฝากอยู่

(Bank Guaranteed)

กรณีเจ้าของกิจการ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว

แสดงรายการเดินบัญชีของบริษัทฯ ฉบับจริง ย้อนหลัง 6 เดือน

– หนังสือเชิญจากต่างประเทศ (ถ้ามี)

– เอกสารการสำรองที่นั่งตั๋วเครื่องบิน

– หลักฐานแสดงที่พำนัก เช่น เอกสารการจองโรงแรม หรือ หนังสือเชิญพำนักจากเจ้าบ้าน

– ประกันการเดินทางวงเงินความคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท (หรือ 30,000ยูโร)

หมายเหตุ:

กรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นการสมัครวีซ่าของท่านอาจล่าช้า หรือท่านอาจไม่ได้สัมภาษณ์วีซ่าในวันที่นัดไว้ ท่านควรขอวีซ่าล่วงหน้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากการรอนัดสัมภาษณ์วีซ่าและกระบวนการออกวีซ่าอาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมเดินทาง

5. สถานที่ยื่นเอกสารคำรองขอวีซ่า

ที่อยู่ติดต่อสถานฑูต

แผนกกงสุล สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร เลขที่ 95 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย

ศูนย์ข้อมูลวีซ่า

เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงศุกร์ 08.00 น. – 15.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการไทย และ วันหยุดสหรัฐฯ)

เวลายื่นวีซ่า: ตามใบนัดของท่าน

เวลารับเล่มวีซ่า: จันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. หรือตามใบนัด

โทรศัพท์: 02-105-4110 (ในประเทศไทย)

(703)-665-7349 (โทรจากสหรัฐอเมริกา)

E-Mail: support-thailand@ustraveldocs.com

Website: http://thai.bangkok.usembassy.gov

วีซ่าถาวร วีซ่าคู่หมั้น

โทร +66-02-205-5004

ในกรณีที่ผู้สมัครได้รับจดหมาย 221(g) และทางสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาแจ้งให้ท่านยื่นเอกสารเพิ่มสำหรับประกอบการพิจารณา ให้ท่านนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นที่ไปรษณีย์ไทยซึ่งจะทำการจัดส่งเอกสารของท่านไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกา

6. ติดตามสถานะหนังสือเดินทาง / สถานที่รับหนังสือเดินทาง

รอรับเล่มคืน

วีซ่าที่ได้รับการอนุมัติแล้วจะถูกส่งคืนผู้สมัครทางไปรษณีย์ภายใน 5-7 วันทำการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการส่งคืนวีซ่า

**ผู้สมัครทุกท่านโปรดทราบว่าระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาโดยประมาณ โดยระยะเวลาการออกวีซ่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี เนื่องจากสถานการณ์ที่แตกต่างกันของผู้สมัครแต่ละคนและข้อกำหนดเฉพาะอื่นๆ

หากสถานทูต หรือ สถานกงสุล พิจารณาออกวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ ให้กับท่าน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จะทำการจัดส่งหนังสือเดินทางที่มีหน้าวีซ่าให้ท่าน โดยจะทำการจัดส่งตามที่อยู่ที่ท่านได้เลือกไว้ตอนที่ท่านทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า

**โปรดทราบว่า ที่ทำการไปรษณีย์จะเก็บหนังสือเดินทางของท่านไว้ 7 วันเท่านั้น หากไม่มีผู้รับในการจัดส่งครั้งแรก บริษัทไปรษณีย์ไทย จะทิ้งใบแจ้งเตือนให้ท่านติดต่อให้ทำการจัดส่งเป็นครั้งที่สอง หรือ ท่านอาจนำใบแจ้งเตือนมารับภายใน 7 วัน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ที่ระบุไว้ในใบแจ้งเตือนนั้น หากท่านไม่มารับหนังสือเดินทางภายใน 7 วัน หนังสือเดินทางจะถูกส่งคืนไปยังสถานทูต หรือ สถานกงสุล**

ติดตามสถานะวีซ่า

ท่านสามารถติดตามสถานะใบยื่นคำร้องขอวีซ่าของท่านได้ที่ https://ceac.state.gov/ceac/

เปลี่ยนที่อยู่จัดส่งหนังสือเดินทาง

ท่านสามารถทำการเปลี่ยนที่อยู่ในจัดส่งหนังสือเดินทางของท่าน หรือผ่าน เจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์ ภายในเที่ยงของวันทำการก่อนหน้าวันนัดหมายสัมภาษณ์จริง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ

โปรดทราบ

ทางสถานทูตฯ ขอแนะนำให้ผู้เดินทางสมัครวีซ่าล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และโปรดหลีกเลี่ยงการวางแผนการเดินทางทีไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะได้รับวีซ่าในหนังสือเดินทางของตน

สำหรับผู้สมัครวีซ่านักเรียน

โปรดระลึกไว้ว่า เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมเป็นช่วงที่แผนกกงสุลมีงานมากที่สุด ดังนั้น ผู้สมัครวีซ่าอาจประสบความยากลำบากในการจองวันสัมภาษณ์วีซ่าในเดือนเหล่านี้ นักเรียนต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางมาที่สถานทูตฯ หลายครั้ง ผู้สมัครวีซ่านักเรียนควรสมัครวีซ่าล่วงหน้า แต่ไม่ควรสมัครเกิน 120 วัน ก่อนวันเปิดเรียน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาอ่าน ฉันจะสามารถสมัครวีซ่าได้เมื่อใด

กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดา หรือ มารดา

ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงาน, สำเนาสมุดเงินฝาก, ทะเบัยนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชนของบิดา-มารดา

หนังสือให้ความยินยอมบุตรเดินทางไปกลับบุคคลอื่นได้ ออกโดยอำเภอหรือสำนักงานเขต

ถ้าบิดา-มารดาถึงแก่กรรม ต้องมีสำเนามรณะบัตร

ระยะเวลาดำเนินการและอนุมัติวีซ่าประมาณ 7-14 วันทำการ

กรณีผู้ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค

สามารถสมัครวีซ่าชั่วคราวโดยไม่ต้องนัดวันสัมภาษณ์ล่วงหน้าได้ในช่วงเช้า ระหว่าง 07.30 น. – 10.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการไทย และ สหรัฐฯ)

ผู้สมัครไม่ต้องส่ง E-Mail มาล่วงหน้าเพื่อนัดสัมภาษณ์ โดยคู่สมรส และลูกผู้เยาว์ของผู้ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค สามารถเข้ารับการสัมภาษณ์พร้อมกับผู้สมัครหลักได้โดยไม่ต้องนัดสัมภาษณ์ล่วงหน้าเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครทุกคนต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการสมัครวีซ่าทั้งหมด และต้องนำใบเสร็จแสดงการชำระค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่า และหน้ายืนยันของแบบฟอร์ม DS-160 มาด้วย เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากการสมัครวีซ่าผ่านช่องทางผู้ถือบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคได้

ระเบียบการเข้าติดต่อแผนกวีซ่า

กฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัย

ผู้ติดต่อสถานทูตฯทุกท่านต้องได้รับการตรวจรักษาความปลอดภัยตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยของสถานทูตฯ ท่านสามารถฝากโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไว้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้าประตู แต่สถานทูตฯและพนักงานรักษาความปลอดภัยจะไม่รับผิดชอบหากเกิดการสูญหายหรือความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นกับโทรศัพท์มือถือของท่านในขณะที่ฝากไว้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย ท่านไม่สามารถเข้าไปในสถานทูตฯตามที่นัดหมายไว้ หากนำสิ่งของดังต่อไปนี้มาด้วย

– อุปกรณ์บรรจุแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ใดๆ เช่น แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ไดอารี่แบบดิจิตอล วิทยุติดตามตัว กล้องถ่ายรูป ตลับเทป แถบบันทึกวิดิทัศน์ ซีดีรอม เครื่องเล่มเอ็มพีสาม แผ่นดิสก์ คอมพิวเตอร์กระเป๋าหิ้ว หรือเครื่องเล่นเพลงขนาดพกพา

– กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าถือสตรีขนาดใหญ่

– กระเป๋าถือและกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ กระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ กระเป๋าใส่เอกสารหรือกระเป๋าเสื้อผ้า ผู้สมัครขอวีซ่าสามารถนำเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าใส่ถุงหรือกระเป๋าใสเท่านั้น

– อาหาร (มีร้านกาแฟและของว่างจำหน่ายภายในสถานทูตฯ)

– ซองหรือพัสดุที่ปิดผนึก

– บุหรี่ ซิการ์ กล่องไม้ขีด ไฟแช็ค

– วัตถุมีคมทุกชนิด เช่น กรรไกร มีดพก หรือตะไบ

– อาวุธหรือวัตถุใดๆที่มีสารประกอบระเบิด

รายการสิ่งของที่ไม่ให้นำเข้ามาภายในสถานทูตฯไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รายการที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น สิ่งของประเภทอื่นอาจไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาภายในสถานทูตฯด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพนักงานรักษาความปลอดภัย นอกจากโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สถานทูตฯไม่รับฝากสิ่งของต้องห้ามที่กล่าวมาข้างต้น ท่านต้องฝากเก็บสิ่งของดังกล่าวไว้ที่อื่นก่อนมาติดต่อสถานทูตฯ

การแบ่งชนิดวีซ่า

โดยทั่วไปแล้ว พลเมืองของประเทศอื่นที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาจะต้องมีวีซ่าเสียก่อน โดยอาจเป็นวีซ่าชั่วคราวเพื่อการพำนักอาศัยในสหรัฐฯ ชั่วคราว หรือวีซ่าถาวรเพื่อการพำนักอาศัยในสหรัฐฯ เป็นการถาวร

วีซ่าเยี่ยมเยียนชนิด “B” เป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯ ชั่วคราว

เพื่อธุรกิจ (B-1)

เพื่อการพักผ่อน (B-2)

วีซ่าชนิด B-1/B-2 สามารถใช้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัว เดินทางไปพักผ่อนในวันหยุด เดินทางเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ หรือเข้าร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจระยะสั้น เช่นการประชุม สัมมนา และวีช่าชนิด B-1ยังเป็นวีซ่าสำหรับผู้สมัครที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯ ในฐานะผู้ช่วยภายในบ้าน

หมายเหตุ: ณ ตอนนี้ ทางบริษัทฯ รับยื่นวีซ่าในกรณีที่ลูกค้าใช้บริการท่องเที่ยวไปกับทัวร์ของทางบริษัทฯครับ